วันเสาร์ที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2560

การทำขนมจีนน้ำเงี้ยว


ขนมจีนน้ำเงี้ยว



ส่วนผสม
1. ขนมจีน1 กิโลกรัม
2. เนื้อหมูบดหยาบ1/2 กิโลกรัม
3. ซี่โครงหมู1/2 กิโลกรัม
4. เลือดไก่ต้ม3 ก้อน
5. มะเขือเทศลูกเล็ก1/2 กิโลกรัม
6. งิ้วแห้ง10 ดอก
7. เต้าเจี้ยว3 ช้อนโต๊ะ
8. น้ำมันพืช1/2 ถ้วยตวง

เครื่องแกง

1.พริกแห้ง10เม็ด
2.รากผักชี10ต้น
3.กระเทียม10กลีบ
4.หอมแดง10หัว
5.กะปิ3ช้อนโต๊ะ
6.เกลือ3ช้อนชา

เครื่องเคียง

1. กระเทียม
2. ผักชี
3. ต้นหอม
4. พริกขี้หนูแห้งทอด
5. มะนาว
6. ถั่วงอก
7. ผักกาดดอง

วิธีการทำ

1. ต้มน้ำ พอเดือด ใส่ซี่โครงหมู ต้มจนหมูนุ่ม
2. โขลกเครื่องแกงรวมกันให้ละเอียด
3. ผัดเครื่องแกงกับน้ำมัน จนมีกลิ่นหอม ใส่เต้าเจี้ยวลงผัด คนให้เข้ากัน
4. ใส่หมูบด ผัดให้เข้ากัน จนหมูสุก
5. ใส่เครื่องแกงที่ผัดแล้วลงในน้ำหม้อต้มกระดูก ต้มจนเดือด ใส่ดอกงิ้ว ต้มต่อประมาณ 10 นาที
6. ใส่เลือดไก่ที่หั่นแล้ว คนให้ทั่ว
7. ใส่มะเขือเทศ
8. ตั้งไฟต่อประมาณ 5 นาที ยกลง นำขนมจีนใส่จาน ราดด้วยแกง (น้ำเงี้ยว) รับประทานกับเครื่องเคียง

การทำสาคูไส้หมู


สาคูไส้หมู


ส่วนผสม

สาคูเม็ดเล็ก ครึ่งถุงน้ำร้อน 1 ถ้วยหมูบด 100 กรัมถั่วลิสงคั่วบด 100 กรัมหอมหัวใหญ่ 1 หัว (อันนี้ใช้แทนหัวไชโป๊ว)กระเทียม 1 หัวรากผักชี (ไม่มีให้ใช้ผักชีซอยทั้งต้น)น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะน้ำตาลทรายแดงน้ำปลาซีอิ๊วดำซีอิ๊วขาวซอสแม็กกี้พริกไทยป่น

วิธีทำ

-นวดสาคูด้วยน้ำร้อน แล้วพักไว้-นำกระเทียบมาสับให้ละเอียดแล้วเจียวจนมีสีเหลืองนวลและมีกลิ่นหอม พักไว้-เริ่มวิธีทำไส้ โดย ผัดหอม กระเทียม และรากผักชีโขลกละเอียด พอสุก ใส่หมูบดลงไป ใส่เครื่องปรุงทุกอย่าง-หมูสุกใส่ผักชีตามลงไป (สำหรับใครที่ใส่รากผักชีแล้วไม่ต้องใส่ผักชีค่ะ)-สุดท้ายใส่ถั่วลิสงคั่วป่น ผัดต่อจนแห้งดี-ขั้นตอนต่อมาเป็นขั้นตอนที่ต้องใช้ความพิถีพิถัน คือการห่อไส้สาคู ถ้าห่อไม่ดีคือบางไปจะทำให้ไส้แตก ถ้าหนาไปก็จะไม่อร่อย เทคนิคคือ วางสาคูลงบนอุ้งมือแล้วตามด้วยไส้แล้วค่อยๆจับจีบ แล้วปั้นให้เป็นก้อนกลมๆ ลองฝึกทำกันดูค่ะ-ต่อไปเป็นขั้นตอนการนึ่ง วางผ้าขาวบางบนลังถึง แล้ววางสาคูตามลงไป เว้นระยะสาคูสักเล็กน้อย เพราะเวลานึ่งสาคูจะใหญ่ขึ้น ใช้เวลานึ่งประมาณ 8-10 นาที-เสร็จแล้วจัดใส่จาน โรยด้วยกระเทียมเจียว ทานคู่กับผักสด หรือพริก

การทำข้าวผัดแหนม

ข้าวผัดแหนม 



ส่วนผสม

• น้ำมันพืช ¼ ถ้วย• กระเทียมสับ 2 ช้อนโต๊ะ• หอมใหญ่หั่นเสี้ยว 2 หัว• แหนมหมูหั่นแฉลบ 1 ถ้วย• ไข่เป็ดหรือไข่ไก่ 5 ฟอง• ข้าวสวย 6 ถ้วย• น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ• น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ• พริกไทยป่น 1 ช้อนชา• ต้นหอมซอย 2 ต้น• ผักชีซอย 1 ต้น• แตงกวาหั่นชิ้น 2 ลูก• พริกขี้หนูสีเขียวและแดงซอย 1 ช้อนโต๊ะ• มะนาวหั่นชิ้น 2 ลูก

ขั้นตอน

1. ตั้งกระทะน้ำมันบนไฟกลางจนร้อน ใส่กระเทียมลงเจียวจนเหลืองหอม ใส่หอมใหญ่และแหนม ผัดพอสุกทั่ว ต่อยไข่ใส่ พอไข่เริ่มสุก ใช้ตะหลิวเขี่ยไข่แดงให้แตก กลับอีกด้าน ผัดพอสุก2. ใส่ข้าวสวย ผัดให้เข้ากัน ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาล และพริกไทยป่น ผัดให้ทั่วและแห้ง ปิดไฟ3. วิธีจัดเสิร์ฟ ตักข้าวใส่จานเท่าๆกัน โรยต้นหอม ผักชี วางแตงกวา พริกขี้หนู และมะนาวข้างๆ เสิร์ฟร้อนๆ

การทำน้ำเต้าหู้


น้ำเต้าหู้





ส่วนผสมทำนมถั่วเหลือง
สูตร 1-ถั่วเหลือง 1 กิโลกรัม น้ำตาลทรายขาวละเอียด 360 กรัม เกลือเสริมไอโอดีน ป่น 1 ช้อนชา น้ำสะอาด 32 ถ้วย ( ประมาณ 8 ลิตร )
สูตร 2-ถั่วเหลือง 1 กิโลกรัม น้ำตาลทรายขาวละเอียด 500-600 กรัม เกลือเสริมไอโอดีนป่น 1 ช้อนชาน้ำสะอาด 32 ถ้วย ( ประมาณ 8 ลิตร )
สูตร 3-ถั่วเหลือง 1 กิโลกรัม น้ำตาลทรายขาวละเอียด 1,000 กรัม เกลือเสริมไอโอดีนป่น 2 ช้อนชา น้ำสะอาด 32 ถ้วย ( ประมาณ 8 ลิตร )
สูตร 4-ถั่วเหลือง 1 กิโลกรัม น้ำตาลทรายขาวละเอียด 1,000 กรัม เกลือเสริมไอโอดีนป่น 1/2 ช้อนชา น้ำสะอาด 32 ถ้วย ( ประมาณ 8 ลิตร )
สูตรทุกสูตรคล้ายคลึงกัน ต่างกันที่ปริมาณเกลือและน้ำตาลเท่านั้น
ถ้าจะให้มีรสมันเพิ่ม เวลาปั่นให้ใส่ ถั่วลิสงคั่ว 1 กำมือ ปั่นรวมกันสีน้ำนมจะออกสีเหลือง หรือ อาจใช้นมข้น ประมาณครึ่งกระป๋องใส่ลงไปก็จะได้น้ำนมถั่วเหลืองที่มีสีขาวชวนรับประทาน มีกลิ่นหอมและมีรสมัน เหมือนนมสด

ขั้นตอนและวิธีทำ 

นำถั่วเหลือง( ใช้ชนิดถั่วเหลืองทั้งเมล็ด ไม่ใช้ถั่วเหลืองซีก ) มาคัดเอาสิ่งสกปรก กรวดทรายดิน ออกให้หมดล้างให้สะอาด ( เมล็ดที่เสียจะลอยน้ำ คัดทิ้ง ) เอาขึ้นจากน้ำ สงไว้
นำถั่วเหลืองไปคั่วให้หอม แล้วนำถั่วเหลืองที่คั่วไปแช่ในน้ำสะอาด จะใช้วิธีแช่ในน้ำร้อนประมาณ 3 ชั่วโมงก็ได้ตามสะดวกจากนั้นนำมายีเอาเปลือกออก ล้างให้สะอาด เอาขึ้นจากน้ำ สงไว้ การแช่ถั่วเหลืองไม่ควรนานเกิน 2-3 ชั่วโมงให้สังเกตว่าพอเม็ดถั่วเริ่มพอง อมน้ำเต็มที่ก็จะใช้ได้ ถ้าเราแช่เมล็ดถั่วเหลืองในน้ำนานเกินไปจะทำให้โปรตีนในถั่วจับตัวกันได้ไม่ดีเท่าที่ควร หรือ โดยให้น้ำท่วมประมาณ 3 เท่าของถั่วเหลือง แช่นานประมาณ 5 - 8 ชั่วโมง
แบ่งถั่วเหลืองพอประมาณใส่ในเครื่องปั่นน้ำผลไม้ แล้วใส่น้ำให้พอปริ่มๆถั่วเหลืองปั่นให้ละเอียด แบ่งปั่นไปเรื่อยๆ หรือ บดด้วยโม่หิน จนถั่วเหลืองหมด
ตวงน้ำ 2 ลิตร นำไปต้มจนเดือดจัด
ระหว่างที่รอ ให้เทน้ำถั่วเหลืองที่ปั่นไว้แล้วใส่ลงไปในหม้อที่รองด้วยผ้าขาวบาง 2 ชั้น นำน้ำที่ต้มเดือดเทตามลงไป คนให้เข้ากัน น้ำจะอุ่นพอดี คั้นเอาแต่น้ำนมถั่วเหลืองแบบคั้นกะทิ แล้วแยกกรองกากออกมา
ยกหม้อขึ้นตั้งไฟ ( ถ้าต้องการใช้กลิ่นใบเตยดับกลิ่นสาปถั่วเหลือง ใส่ใบเตยตอนนี้ ) ต้มด้วยไฟกลาง พอเริ่มจะเดือด ก็ใช้ไฟอ่อน คุมอุณหภูมิไม่ให้เกิน 90 องศาเซลเชียส ( น้ำจะเดือดที่อุณหภูมิ 100 องศาเซลเชียส )คือต้มให้น้ำถั่วเหลืองร้อนแต่ไม่เดือด ขั้นตอนในการต้มใช้เวลาประมาณ 30-40 นาทีในขณะต้มต้องหมั่นคนอยู่ตลอดเวลา มิฉะนั้นจะไหม้ได้ง่าย พอชิมดูว่าถั่วเหลืองสุกแล้วใส่เกลือครึ่งช้อนชาเคี่ยวต่ออีกประมาณ 5 นาที ปิดไฟหรือยกลง เติมน้ำตาลและเกลือป่น ชิมรสตามชอบ

เทน้ำถั่วเหลืองที่คั้นไว้ไว้แล้วใส่ลงไปในหม้อ โดยกรองด้วยผ้าขาวบาง 2 ชั้นเสร็จแล้วเติมน้ำส่วนที่เหลือทั้งหมดลงไปในหม้อ คนให้เข้ากัน



การทำแกงมัสมั่นไก่


แกงมัสมั่นไก่



จากกาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวาน ที่พระราชนิพนธ์ โดย พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ ๒ ที่ช่วงรัชกาลนั้นเป็นจุดกำเนิดของสุนทรภู่ที่ได้เลื่อนยศเป็น หลวงสุนทรโวหาร จากการแต่งบทละครในเรื่อง "รามเกียรติ์"เพื่อถวายพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลั...ยจนเป็นที่พอพระทัย

"แกงมัสมั่นไก่" (หม้อเบอร์ 22 ซม. 1 ใบ สำหรับ 15-22 คน)
ส่วนผสม
สะโพกไก่ติดน่อง 1 กิโลกรัม
หางกะทิ 9 ถ้วย
มันฝรั่งหั่นชิ้นใหญ่ 1 หัว
น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำพริกแกงที่โขลก 1/2 ถ้วย
หัวกะทิ 3 ถ้วย
น้ำตาลปี๊บ 6 ช้อนโต๊ะ
น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำมะขามเปียกคั้นข้นๆ 5 ช้อนโต๊ะ
เกลือสมุทร 2 ช้อนโต๊ะ
ถั่วลิสงคั่ว 3 ช้อนโต๊ะ
หอมใหญ่หั่นชิ้นสี่เหลี่ยมขนาด 1 นิ้ว 1 หัว
ลูกกระวานคั่ว 3 ลูก
ใบกระวาน 4 ใบ
พริกชี้ฟ้าสีแดงหั่นแฉลบและใบผักชีสำหรับตกแต่ง
\\ น้ำพริกแกง (ปริมาณ 1/2 ถ้วย)
น้ำพริกแกงเผ็ด (สูตรหน้า 55) 1/2 ถ้วย
ลูกผักชีคั่วป่น 11/2 ช้อนชา
ยี่หร่าคั่วป่น 1 ช้อนชา
ลูกกระวานขาวคั่วแกะเมล็ดในออก 3 เม็ด
กานพลู 2 ดอก

วิธีทำ

1. ทำน้ำพริกแกงโดยโขลกน้ำพริกแกงเผ็ด ลูกผักชี ยี่หร่า เมล็ดในลูกกระวาน และกานพลูเข้าด้วยกันให้ละเอียด ตักใส่ถ้วย พักไว้

 2. ล้างสะโพกไก่ ตัดสะโพกและน่องแยกออกจากกัน ใส่หม้อ ใส่หางกะทิ 8 ถ้วย ยกขึ้นตั้งบนไฟกลาง เคี่ยวนาน 5 นาที แล้วใส่มันฝรั่งลงเคี่ยวรวมกับไก่อีก 5 นาที หรือจนสุก

 3. ตั้งกระทะบนไฟกลาง ใส่น้ำมัน และน้ำพริกแกงที่โขลก ผัดให้หอม ใส่หัวกะทิ 1 ถ้วย เคี่ยวให้เดือดและแตกมัน ตักใส่หม้อไก่ที่เคี่ยวกับหางกะทิ ตามด้วยหางกะทิและหัวกะทิที่เหลือ ปรุงรสด้วยน้ำตาล น้ำปลา น้ำมะขามเปียก และเกลือ ชิมรสให้ออกสามรสกลมกล่อม ใส่ถั่วลิสงคั่ว หอมใหญ่ ลูกกระวาน และใบกระวาน เคี่ยวต่อพอหอมใหญ่สุก ปิดไฟ

4. ตักใส่ถ้วย ตกแต่งด้วยพริกชี้ฟ้าและใบผักชี เสิร์ฟ


การทำหมึกผัดไข่เค็ม


หมักผัดไข่เค็ม 



ส่วนผสม
• ไข่แดงของไข่เค็มต้มสุกหั่นชิ้นเล็ก 3 ฟอง
• น้ำมันพืชสำหรับผสมไข่แดง 3 ช้อนโต๊ะ
• น้ำมันพืชสำหรับผัด 2 ช้อนโต๊ะ
• กระเทียมไทยสับ 1 ช้อนโต๊ะ
• ปลาหมึกกล้วยหั่นชิ้นขนาดพอคำ 300 กรัม
• น้ำมันพริกเผา 1 ช้อนโต๊ะ
• น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
• น้ำตาลทราย 2 ช้อนชา
• ซีอิ๊วขาว 2 ช้อนชา
• ต้นหอมหั่นท่อนขนาด 1 นิ้ว 3 ต้น
• พริกชี้ฟ้าแดงหั่นแฉลบ 1 เม็ด

วิธีทำ
1. เตรียมหมึกโดยการนำไปลวกในน้ำร้อนจัด 1 นาที จึงนำไปใส่ในอ่างน้ำเย็นจัด สะเด็ดน้ำพักไว้

2. บี้ไข่แดงกับน้ำมัน คนให้พอเข้ากัน พักไว้

3. ตั้งกะทะน้ำมันบนไฟอ่อนพอร้อน ใส่กระเทียมลงเจียวพอเหลือง ใส่ปลาหมึก เร่งเป็นไฟแรง ผัดให้เข้ากัน ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาล ซีอิ๊วขาว น้ำมันพริกเผา และพริกไทย ผัดให้ทั่ว ชิมรสให้เค็มหวาน ใส่ไข่แดงที่ผสมไว้ ใส่ต้นหอม และพริกชี้ฟ้า ผัดเร็วๆให้พอเข้ากัน ปิดไฟ

4. ตักใส่จาน เสิร์ฟ


การทำขนมเบื้องญวน


ขนมเบื้องญวน



ส่วนผสมแป้ง
แป้งข้าวเจ้าพิเศษ 1 กิโลกรัม
น้ำร้อนสำหรับคั้นมะพร้าว 5 ถ้วย
น้ำปูนใสเล็กน้อย
มะพร้าวทึนทึกขูดขาว 1 กิโลกรัม
น้ำขมิ้นสดคั้นกรองเอาแต่น้ำเล็กน้อย
เกลือเล็กน้อย

ส่วนผสมไส้กุ้ง
กุ้งนางสับละเอียด 2 กิโลกรัม
รากผักชี พริกไทย และกระเทียมโขลกละเอียด 2 ช้อนโต๊ะ
หัวกะทิ ¾ ถ้วย
กากมะพร้าวที่เหลือจากการคั้นในส่วนผสมของแป้ง
น้ำปลา น้ำตาลทราย และพริกไทย อย่างละเล็กน้อย
น้ำมันพืชสำหรับผัดเล็กน้อย

ส่วนผสมอื่นสำหรับทำไส้
ถั่วงอกเด็ดหาง หัวไช้โป๊วสับละเอียด และเต้าหู้เหลืองหั่นเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมเล็กๆ ตามชอบ
ใบผักชีเล็กน้อย
พริกไทยป่นเล็กน้อย
น้ำมันเล็กน้อย

วิธีทำ
1. คั้นมะพร้าวด้วยน้ำร้อน แล้วแยกหัวกะทิและหางกะทิไว้

2. นวดแป้งด้วยหัวกะทิจนแป้งเนื้อเนียนดี แล้วเติมหางกะทิทีละน้อยจนหมด พอแป้งละลายเหลวค่อนไปทางใส จึงเติมน้ำขมิ้นให้พอออกสีเหลือง น้ำปูนใสและเกลือ จากนั้นคนส่วนผสมให้ละลายเข้ากันด้วยตะกร้อมือ แล้วกรองด้วยผ้าขาวบาง

3. ตั้งกระทะให้ร้อนด้วยไฟกลาง ใส่น้ำมัน นำรากผักชีพริกไทย และกระเทียมโขลกลงไปผัดจนสุกหอม ใส่หัวกะทิลงไปประมาณครึ่งถ้วย ผัดต่อจนส่วนผสมเดือดตามด้วยกุ้งและหัวกะทิที่เหลือ ปรุงรสด้วยน้ำปลา ผัดจนเข้ากัน ชิมรสตามชอบ
จากนั้นใส่มะพร้าว ผัดต่อจนส่วนผสมเริ่มแห้ง ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาล พริกไทย ผัดต่อไปพอให้น้ำแห้ง กลิ่นหอม ชิมรสตามชอบ พักไว้

4. ลนกระทะให้ร้อนทั่วด้วยไฟกลาง ใช้กระบวยคนแป้งให้ทั่ว (อย่าให้นอนก้น) แล้วตักแป้งราดในกระทะกลอกให้เป็นแผ่นกลม ใส่ถั่วงอกลงตรงกลาง โรยน้ำมันรอบขอบแป้ง ปิดฝาให้ถั่วงอกสุก ใส่ส่วนผสมในข้อ 3 ลงไป โรยหัวไช้โป๊ว เต้าหู้ ผักชี และพริกไทยป่น พอแป้งเหลืองกรอบทั่วแล้วจึงพับครึ่ง ตักใส่จาน เสิร์ฟพร้อมอาจาด

ส่วนผสมอาจาด
น้ำส้มสายชู ½ ถ้วย
น้ำตาลทราย ½ ถ้วย
เกลือ 1 ช้อนชา
แตงกวาผ่าสี่หั่นบางตามชอบ
พริกแดงหั่นแฉลบตามชอบ

วิธีทำ
1. ผสมน้ำส้มสายชู น้ำตาลทราย และเกลือ นำขึ้นตั้งไฟจนเดือดทั่ว ยกลงพักไว้ให้เย็น
2. จัดแตงกวาและพริกแดงลงในถ้วย ราดด้วยน้ำอาจาดเสิร์ฟพร้อมกับขนมเบื้องญวน

การทำขนมไข่เต่า


ขนมไข่เต่า



ส่วนผสม
1. แป้งมัน
2. แป้งสาลีอเนกประสงค์
3. น้ำตาลทราย
4. หัวกะทิ
5. เกลือป่น
6. มันเทศ 1 หัว
7. ไข่ไก่ 2 ฟอง
8. ผงฟู

วิธีทำ
– นำมันเทศมาปลอกเปลือก และล้างในน้ำให้สะอาด แล้วนำไปนึ่งให้สุก
– พอได้มันเทศนึ่งสุกแล้วให้นำมาบดให้ละเอียด แล้วผสมแป้งมันลงไปแค่ครึ่งหนึ่งของมันเทศ จากนั้นก็นำแป้งสาลีใส่ลงไป 1/3 ส่วนของแป้งมัน
– นำไข่ที่เตรียมไว้ และเลือกเอาเฉพาะไข่แดงแล้วใส่ลงไปรวมกันกับมันเทศบดและแป้งที่ผสมไว้แล้ว
– ใส่น้ำตาลทราย และเกลือป่นลงไปเล็กน้อย
– นวดแป้งและส่วนผสมต่างๆ ให้เข้ากัน และให้ใส่หัวกะทิลงไปตอนนวดแป้งทีละน้อย นวดจนให้สามารถจับปั้นได้
– ใส่ผงฟูลงไป 1 ช้อนชา พักแป้งที่นวดกับมันเทศไว้ครึ่งชั่วโมง และนำมาปั้นเป็นเม็ดกลมขนาดเท่าไข่นกกระทา
– ตั้งกระทะใส่น้ำมัน รอให้น้ำมันเดือดได้ที่ แล้วใส่ไข่นกกระทาหรือไข่เต่าที่ปั้นไว้ลงไปทอด
– ใช้ตะแกรงกดขนมระหว่างทอด เพื่อให้ฟูขึ้น ทอดให้เหลือง กรอบ จากนั้นตักขึ้นจากน้ำมัน รอให้สะเด็ดน้ำมัน ก็เสร็จเรียบร้อยพร้อมรับประทาน

หมายเหตุ : บางท่านอาจจะไม่ต้องใช้ไข่ไก่ในการทำขนมไข่เต่านี้ก็ได้ และถ้าใครไม่ชอบมันเทศก็สามารถเปลี่ยนมาเป็น เผือก ฟักทอง หรือมันสำประหลังแทนก็ได้ แล้วแต่ความชอบหรือบางท่านอาจจะทำแบบสอดไส้ถั่ว เพื่อเพิ่มรสชาติให้อร่อยมากยิ่งขึ้น และสัดส่วนของเครื่องปรุงและส่วนผสมนั้นแล้วแต่ว่าเราจะทำขนมไข่เต่ามากน้อยเพียงใด และสามารถตักตวงส่วนผสมได้ตามชิ้นส่วนของมันที่นำมาใช้ในการบดครับ

การทำขนมปรากริมไข่เต่า


ขนมปลากริมไข่เต่า




ปลากริมไข่เต่า ขนมไทยโบราณ ที่มีรสชาติหอมอร่อย อร่อยเหาะดอทคอมขอแนะนำสูตรปลากริมไข่เต่าของแม่สลิ่มห้องก้นครัว ส่วนผสมและวิธีทำเป็นดังข้างล่างนี้ค่ะ
 ส่วนผสม 
แป้งข้าวเหนียว 1 ถ้วย
แป้งข้าวเจ้า ถ้วย
แป้งมัน 1/2 ถ้วย
น้ำร้อนเดือด 1 ถ้วย
มะพร้าวขูดขาว 500 กรัม
น้ำตาลทราย 1/4 ถ้วย
น้ำตาลปีบ 1/2 ถ้วย
เกลือป่น 1 ช้อนชา
น้ำดอกไม้สด ถ้วย (น้ำดอกไม้สด คือ นำดอกไม้สดมาลอยไว้ 1 คืน ก่อนนำน้ำนั้นมาใช้ โดยเอาดอกไม้สดทิ้งไป เช่น ดอกมะลิ ดอกกุหลาบ ฯลฯ ทั้งนี้เราต้องทราบก่อนว่าดอกไม้แต่ละชนิดบานช่วงเวลาไหน ต้องเก็บเวลาที่ดอกไม้ที่เราต้องการมาลอยน้ำบานคะ กลิ่นจะได้หอม ๆ กรณีไม่มีดอกไม้ ใช้น้ำเปล่าธรรมดาแทนคะ หรือจะใช้กลิ่นมะลิ กลิ่นใบเตยมาทดแทนตามแต่จะหาได้ค่ะ)
 วิธีทำ
1. นำแป้งข้าวเหนียว แป้งข้าวเจ้า แป้งมัน รวมกัน เทน้ำเดือดลงไปใช้พายคนให้เข้ากัน นวดจนแป้งมีลักษณะเหนียวนุ่มมือ หมักไว้ก่อนประมาณครึ่งชั่วโมง
2. ระหว่างหมักแป้ง เตรียมกะทิ โดย คั้นมะพร้าว ด้วยน้ำดอกไม้สดแบ่งคั้นสองครั้งให้ได้กะทิ 4 ถ้วย
3. เตรียมหม้อสองหม้อเพื่อทำกะทิเตรียมไว้ก่อน โดยหม้อแรกจะทำกะทิส่วนขนมปลากริม โดยผสมกะทิเกลือและน้ำตาล ตั้งไฟพอเดือด พักไว้ หม้อที่สองทำส่วนกะทิของขนมไข่เต่า โดยนำกะทิน้ำตาลปีบ ตั้งไฟให้เดือด พักไว้
4. เมื่อหมักแป้งได้ที่แล้ว ก็นำแป้งแบ่งเป็นสองส่วน ส่วนแรกปั้นเป็นก้อนกลมๆ เป็นส่วนของไข่เต่า และปั้นเป็นยาวๆ รีๆ หัวท้ายแหลมๆ เป็นส่วนของปลากริม
5. นำแป้งที่ปั้น ไปลวกในน้ำร้อนเดือดๆ สังเกตว่าถ้าแป้งที่นำไปลวกสุกแล้ว จะลอยขึ้นมา
6. ตักแป้งมาแช่ในน้ำเย็น
7. นำแป้งที่ลวกแล้วไปใส่ในหม้อกะทิปลากริม และหม้อกระทิไข่เต่า ตั้งไฟให้เดือด พอเดือดปิดไฟ
8. วิธีเสริฟตักขนมไข่เต่าครึ่งหนึ่งของถ้วย แล้วจึงตักปลากริมใส่ข้างบน เป็นอันเสร็จเรียบร้อยคะ

การทำบัวลอย


บัวลอย 



ขั้นตอนการทำบัวลอย
+ ส่วนผสมบัวลอย +
* แป้งข้าวเหนียว 2 ถ้วยตวง
* เผือกนึ่งสุกบดละเอียด 1 ถ้วยตวง (กรณีต้องการบัวลอยหลายสีสามารถเลือกใช้ฟักทอง เพื่อทำบัวลอยสีเหลือง, ใบเตย เพื่อทำบัวลอยสีเขียว, อื่นๆ)
* น้ำเปล่า 1/4 ถ้วยตวง
+ส่วนผสมน้ำกะทิ+
* กะทิ 2 ถ้วยตวง
* น้ำตาลมะพร้าว 100 กรัม
* น้ำตาลทราย 1 ถ้วยตวง
* เกลือป่น 1 ช้อนชา
* เนื้อมะพร้าวอ่อน, ไข่ (จะมีหรือไม่มีก็ได้)
* งาขาว (สำหรับแต่งหน้า จะมีหรือไม่มีก็ได้)
วิธีทำขนมไทย ทีละขั้นตอน
          1. ทำบัวลอยโดยผสมแป้งข้าวเหนียว, เผือกนึ่งและน้ำเปล่าเข้าด้วยกัน นวดจนส่วนผสมทุกอย่างเข้ากันเป็นเนื้อเดียว จากนั้นจึงนำมาปั้นเป็นลูกกลมๆ ระหว่างปั้นนั้น ควรโรยด้วยเศษแป้งข้าวเหนียวเล็กน้อยเพื่อป้องกันไม่ให้ลูกบัวลอยติดกัน (ถ้าต้องการทำบัวลอยหลายสีก็ใช้ส่วนผสมเพิ่ม ไม่ว่าจะเป็นฟักทองสำหรับสีเหลือง หรือใบเตยสำหรับสีเขียว เป็นต้น)
          2. ต้มน้ำในหม้อขนาดกลาง รอจนเดือดจึงใส่ลูกบัวลอยที่ปั้นไว้แล้ว เมื่อบัวลอยสุกให้นำออกมาแช่ในน้ำเย็น (บัวลอยที่สุกแล้วจะลอยขึ้น)
          3. ทำน้ำกะทิโดยผสม กะทิ, น้ำตาลมะพร้าว, น้ำตาลทรายและเกลือป่นลงไป ควรใส่น้ำตาลทรายแค่ครึ่งเดียวก่อน ถ้ายังหวานไม่พอจึงค่อยใส่เพิ่มลงไป ต้มจนเดือด จึงหรี่ไฟลง นำบัวลอยที่ต้มไว้แล้วใส่ลงไปในน้ำกะทิ ต้มต่ออีกสักพักจึงปิดไฟ ถ้ามีมะพร้าวอ่อนก็ใส่ได้เลย พร้อมลูกบัวลอย (กรณีต้องการทำบัวลอยไข่หวาน ก็ตอกไข่ใส่ไปในหม้อหลังจากที่ใส่บัวลอยลงไป รอจนไข่สุกจึงปิดไฟ)
          4. ตักใส่ถ้วย โรยหน้าด้วยงาขาว เสริฟขณะร้อนหรือรอให้เย็นก็ได้