วันอาทิตย์ที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2560

วิธีทำบิงซู

ตั้งแต่อากาศเริ่มร้อนตัวเฮาก็ติดบิงซู (Bingsu) น้ำแข็งไสเกล็ดหิมะสไตล์เกาหลีที่ฮิตติดลมบนในช่วงหลังอย่างแฮง กินแล้วมันรู้สึกดี อร่อย สดชื่น หวานฉ่ำ แต่ประเด็นคือมันแพงอ่ะ อยากกินเยอะๆก็แพงขึ้นไปอีก
แก้ปัญหาแบบเนยๆ ... ทำเองเลยละกัน!
ซึ่งวิธีทำจริงๆก็ง่ายมาก ไม่ต้องซื้ออุปกรณ์พิเศษอะไรเพิ่มเลยแม้แต่อย่างเดียว ใช้เพียงตู้เย็นบ้านๆนี่แหละก็ทำเองได้แล้ว
และหลังจากทำมา 4 รอบเพื่อปรับจูนสูตรให้อร่อยที่สุด ตอนนี้ก็ได้วิธีที่เสถียรและอร่อยแน่นอนเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งเชื่อว่าน่าจะมีคนอยากทำเองเยอะ ดังนั้น ... จัดปายยยยย เขียนบล็อกวิธีทำทีละขั้นตอนให้เลยละกันจะได้ทำกันเองได้ ! มา ลุยยยยยย
เตรียมวัตถุดิบ
วัตถุดิบที่ต้องใช้มีอยู่ไม่มาก หาซื้อได้ตามซูปเปอร์มาร์เก็ตทั่วไปหรือดีไม่ดีก็มีอยู่ที่บ้านแล้วด้วยซ้ำ
1) นมสดรสจืด 400 มล. แบบมีไขมัน - ห้ามใช้แบบไขมันต่ำหรือไขมัน 0% เป็นอันขาด เพราะตอนแข็งมันจะกลายเป็นก้อนแข็งๆไม่ใช่เกล็ด เทคนิคเบื้องหลังของ Bingsu คือนมมีไขมันแทรก เวลานมแข็งก็จะไม่จับตัวเป็นก้อน กลายเป็นเกล็ดโดยไม่ต้องทำอะไร และ Bingsu ที่เราทานๆกันก็ไม่มีอะไรมากกว่านี้ มันคือนมแช่แข็งนี่เอง
2) นมข้นหวาน 1 กระป๋อง
3) ไอคกรีมรสนม 1 ถ้วย - หากหาไม่ได้ให้ใช้รสวานิลลาก็ได้ แต่รสนมจะอร่อยและเข้ากับบิงซูที่สุด อย่างยี่ห้อที่เราซื้อเราซื้อที่วิลล่ามาร์เก็ต ลองหาดูครับ ต้นทุนจะสูงจะต่ำก็ขึ้นอยู่กับยี่ห้อไอติมนี่ด้วย
4) มะม่วงสุก 1 ลูก - โชคดีมากที่ฤดูร้อนเป็นหน้ามะม่วงพอดี ดังนั้นจะหาซื้อได้โดยทั่วไปและถูกมากด้วย แต่ถ้าจะใช้อย่างอื่นก็ได้โดยผลไม้ที่เหมาะสมจะเป็นผลไม้ที่ (1) นิ่ม (2) หวานหรือเปรี้ยว เช่น ส้ม Dole หรือผลเบอร์รี่ต่างๆ แต่สำหรับบล็อกนี้จะใช้มะม่วงสุกละกันเพราะคนน่าจะชอบเยอะ
5) ถุงซิปล็อค - เป็นถุงที่จะเอาไว้ใส่นมเพื่อเอาไปแช่แข็ง หากหาถุงซิปล็อคไม่ได้ก็ใช้ถุงเย็น+คลิปหนีบปากถุงก็ได้(ตามภาพ) ส่วนขนาดก็ดูจากภาพด้านบนเช่นกัน หาอะไรได้ก็ใช้อันนั้น ยังไงก็ได้เอาตามสะดวกครับ
ต้นทุนรวมๆแล้ว 70 บาท อาจจะมีบวกลบตามคุณภาพไอติมและมะม่วง
วิธีทำ
วิธีทำง่ายมาก ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมงในการรอ แต่ใช้เวลาเตรียมแค่ไม่ถึง 20 นาที ตามนี้
1) เทนมสดใส่ภาชนะสำหรับผสม
2) ตักนมข้นหวาน 4 ช้อนโต๊ะแบบพูนๆ ผสมลงไปในนมสด (สำหรับคนที่อยากให้หวานน้อยลงก็ปรับลดได้ตามสะดวกหรือจะไม่ใส่เลยก็ได้ ทำได้เหมือนกันครับ)

3) คนให้เข้ากัน (นมข้นหวานสามารถละลายในนมสดได้ถึงแม้นมสดจะเย็น)
4) เทนมที่ผสมเรียบร้อยแล้วใส่ถุงที่เตรียมไว้ตามเทคนิคของแต่ละคน
5) พยายามไล่อากาศออกให้เยอะที่สุดเท่าที่เป็นไปได้แล้วปิดปากถุง หากเป็นซิปล็อคก็รูดเลยสะดวกดี แต่ถ้าเป็นถุงเย็นก็พับปากถุง 5 ทบเป็นอย่างน้อยก่อนเอาคลิปหนีบ 3 จุดตามภาพครับ
6) จากนั้นก็เอาไปแช่ช่องฟรีสได้เลย โดยเอาวางนอนราบไว้ คีย์หลักคือต้องให้ชั้นนมบางที่สุดเพื่อให้มันแข็งเป็นเกล็ดอย่างทั่วถึง
7) จากนั้นก็ตักไอติมที่เตรียมไว้ใส่ถุงเย็นอีกถุงนึง
7) จากนั้นก็ตักไอติมที่เตรียมไว้ใส่ถุงเย็นอีกถุงนึง
8) ปั้นเป็นก้อนกลมๆด้วยมือ
9) แล้วก็เอาไปยัดช่องฟรีสโลด
10) อีกอย่างที่แนะนำให้ยัดเข้าช่องฟรีสไปด้วยคือถ้วยที่จะเอาไว้ใส่บิงซู เพราะถ้าถ้วยไม่เย็นมันจะละลายเร็วมาก
จากนั้นรอประมาณ 2-3 ชั่วโมงเพื่อให้นมแข็งตัวเป็นเกล็ด หาอะไรทำไปก่อนนะ ...
3 ชั่วโมงผ่านไป
11) เช็คถุงนมดูว่าตอนนี้แข็งเรียบร้อยแล้วหรือยัง หากแข็งแล้วให้เอาออกมาแล้วใช้ช้อนกดๆๆๆๆๆสับๆๆๆๆเพื่อให้มันแตกตัวเป็นเกล็ดละเอียด
12) จนถึงตอนนี้น่าจะเริ่มเห็นความเป็นบิงซูแล้ว นี่แหละครับ ไม่ยากใช่ม้า =D แต่การเอามากดๆๆๆสับๆๆๆในขั้นตอนก่อนหน้าก็อาจจะทำให้นมละลายไปส่วนนึง ดังนั้นให้เอาถุงนมกลับเข้าไปแช่ช่องฟรีสอีกรอบครับ
13) ระหว่างนี้เตรียมมะม่วงกัน! เราจะทำมะม่วงให้เป็นชิ้นๆลูกเต๋ากัน เริ่มต้นด้วยการผ่ามะม่วงแบบไม่ต้องปอกเปลือกตามแนวเม็ดทั้งสองฝั่ง แล้วก็โยนเม็ดทิ้งไป
14) หั่นเนื้อมะม่วงเป็นตารางแต่ไม่ต้องให้ทะลุเปลือก อยากได้ขนาดไหนก็แล้วแต่เลยครับ ถ้าให้แนะนำก็ราวๆ 2 ซม. x 2 ซม. กำลังดี
15) จากนั้นก็จับด้วยมือสองข้าง ดันเนื้อมะม่วงมาจากฝั่งเปลือกจนนูนออกมาตามนี้
16) ใช้มืดฝานออกมาทีละแถวจะได้มะม่วงออกมาเป็นชิ้นเล็กๆสวยงาม แยกชิ้นเล็กและชิ้นใหญ่ออกจากกัน
17) เอาถ้วยที่แช่ไว้ในช่องฟรีสออกมาแล้วเทมะม่วงชิ้นเล็กลงไปในถ้วย
18) รอจนกระทั่งถุงนมที่แช่ไว้แข็งทั่วถุงอีกรอบ(ซึ่งน่าจะใช้เวลาไม่เกิน 10 นาที บางทีปอกมะม่วงเสร็จก็แข็งหมดแล้วพอดี) ให้เอาถุงนมออกมาแล้วบี้หรือสับด้วยช้อนจนแตกเป็นเกล็ดอีกรอบ
19) เทเกล็ดนมแข็งที่ได้ลงในถ้วยให้เรียบร้อย พร้อมตบๆให้โค้งๆเป็นกลมๆ
20) เอาเนื้อมะม่วงส่วนที่เหลือมาวางเรียงรอบๆ
21) เอาไอศกรีมที่แช่ไว้มาวางโปะด้านบน
เสร็จเรียบร้อย ! ขอให้มีความสุขกับบิงซูฝีมือท่านเองคร้าบบบบบ เราจะผ่านร้อนนี้ไปด้วยกันนนนน 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น